“หนาวนี้ไปไหนดี” เป็นคำถามในใจที่ทุกคนต่างเป็นกัน เนื่องจากในเมืองไทยมีสถานที่ท่องเที่ยวมากมายหลายหลาก ทำให้เราเลือกไม่ถูกจริงๆ เพราะที่นี่ก็น่าไป ที่โน้นก็น่าลอง มาวันนี้ Travel.mthai.com ได้รวบรวม 10 แหล่งท่องเที่ยวหน้าหนาว ทั่วทุคภาคในประเทศไทย มาให้คุณได้ตัดสินใจกัน มีทั้งที่ท่องเที่ยวยอดนิยม แบบใกล้ชิดวิถีชาวบ้าน ใกล้ชิดธรรมชาติ และแบบหลีกหนีความวุ่นวายไกลผู้คน เรียกได้ว่าเราจัดให้คุณครบทุกไลฟ์สไตล์ ชอบแบบไหน ก็เตรียมเก็บกระเป๋า แล้วลุยกันเลย
เริ่มที่แรกด้วย ดอยอินทนนท์ ยอดเขาที่สูงที่สุดในประเทศไทย เพราะจะขึ้นเหนือทั้งทีต้องไปให้สุด ถือเป็นอีกหนึ่งแลนด์มาร์คสำคัญในจังหวัดเชียงใหม่ เรียกได้ว่าเป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดฮิตอันดับต้น ๆ ของภาคเหนือเลยก็ว่าได้ นอกจากจะไปถ่ายกับป้ายสูงสุดแดนสยามแล้ว ยังมีจุดชมทะเลหมอกที่สวยงาม หรือจะเดินชมความเขียวขจีของผืนป่า ในเส้นทางศึกษาธรรมชาติกิ่วแม่ปาน และอ่างกา ที่ชวงนี้เปิดให้เข้าไปเดินเล่นในทุ่งหญ้า สูดอากาศรับลมหนาวอย่างเต็มที่ โดยที่ไม่มีเจ้าทากตัวน้อยมากวนใจคุณ
อากาศบนยอดดอยนั้น หนาวติดอันดับต้นๆ ของประเทศ อุณภูมิติดลบ จนพบน้ำค้างแข็ง ที่เย็นจัดจนเป็นผลึกใส ถ้าจะไปเที่ยว โปรดเตรียมเสื้อกันหนาวของคุณให้พร้อม แล้วออกไปดูของจริงสักครั้งให้เห็นกับตาของตัวเอง
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม : อุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ โทร. 053 286 728 – 9
หากเบื่อกับสถานการณ์รถติด ตามดอยสุดอิตต่างๆ ที่ช่วงเทศกาล ผู้คนจะแออัดอย่างมาก แต่โชคดี เมืองไทยยังไม่สิ้นหวัง เมื่อมีทางเลือกสุดแจ่ม อยู่ไม่ไกลจากตัวเมืองเชียงใหม่ นั่นก็คืออำเภอแม่แจ่ม ตั้งอยู่ทางตะวันตกเฉียงใต้ของเชียงใหม่ท่ามกลางป่าเขาเขียวขจี สามารถสัมผัสความงามของทะเลหมอกได้ที่จุดชมวิวดอยม่อนหมาก โดยไม่ต้องง้อดอยสุดฮิตอื่นๆ จุดเด่นของอำเภอแม่แจ่มนั้น อยู่ที่ความสวยงามอลังการของนาขั้นบันได ที่ข้าวเริ่มจะออกรวงสีเหลืองทองในช่วงหน้าหนาว อีกทั้งชมบ้านป่าบงเปียง หมู่บ้านเล็กๆ ที่เต็มไปด้วยเสน่ห์วิถีชีวิตของคนท้องถิ่น ให้เราได้อิ่มเอิบ เน้นว่า ถ้าเบื่อกับสถานที่ยอดนิยมในเชียงใหม่ ลองมาแม่แจ่มดูสักครั้ง รับรองว่าแจ่มจริง
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม : ททท. สำนักงานเชียงใหม่ โทร. 053 276 140 – 1
ไม่ว่าปีไหนๆ การผจญภัยเดินขึ้นภูกระดึง พร้อมอาการหอบ เพื่อไปถ่ายรูปกับป้าย “ครั้งหนึ่งในชีวิต เราเป็นผู้พิชิตภูกระดึง” ยังคงเป็นที่นิยมคลาสสิกตลอดกาล แต่ไม่ต้องกลัวจะเหนื่อยฟรี เพราะที่ภูกระดึงแห่งนี้มีอะไรให้ชมมากมาย ไม่ว่าจะเป็นหินผา ที่กระจายตามจุดต่างๆ ให้คุณได้มองพระอาทิตย์ลับขอบฟ้า จนถึงการดูดาวยามค่ำคืน อีกทั้งใบเมเปิ้ลสีแดงริมน้ำตก ที่นับวันจะหายากขึ้น ควรค่าแก่การถ่ายภาพเก็บไว้เป็นอย่างมาก
หากจะเที่ยวภูกระดึงให้ครบ ต้องใช้เวลาหลายวันเลยทีเดียว แหล่งท่องเที่ยวมีความไกลจากจุดกางเต็นท์พอควร จะเดินหรือปั่นจักรยานไปก็ตามสะดวก ด้วยอากาศอันหนาวเหน็บ ท่ามกลางธรรมชาติอันแสนมหัศจรรย์ ภูกระดึง จึงเป็นอีกสถานที่ที่ควรไปเยือนสักครั้งในชีวิต ไปเสียแต่ตอนนี้ ตอนที่เรายังมีแรงเหลืออยู่
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม : อุทยานแห่งชาติภูกระดึง โทร. 042 810 833 – 4
หากคุณกำลังมองหาความเงียบสงบ ต้องการผ่อนคลายจากความเครียด ความอ่อนล้าจากการทำงาน เมืองน่ารักแห่งนี้คือคำตอบของคุณ เชียงคาน เมืองเล็กๆ ริมแม่น้ำโขงสุดชายแดนไทย ที่คงยังคงไว้ซึ่งวัฒนธรรม ขนบประเพณี การใช้ชีวิตแบบเรียบง่าย พอเพียง วิถีชีวิตแบบดั้งเดิม ซึ่งหาดูยากในปัจจุบัน
ภาพบ้านเก่าๆที่เรียงรายติดกันอยู่ริมชายโขง บ้านเรือนที่เมืองเชียงคานจะแบ่งออกเป็นซอยเล็กๆ เรียกว่า ถนนศรีเชียงคาน ตกตอนเย็น ก็จะมีถนนคนเดินให้นักท่องเที่ยวได้มาช้อปปิ้งกัน มีสินค้าและของพื้นเมืองต่างๆ ให้คุณได้เลือกสรร มากมาย ท่ามกลางลมหนาว วิวทิวทัศน์ริมฝั่งโขงอันงดงาม ห้อมล้อมไปด้วยผู้คนที่เป็นมิตร รับรองว่าคุณจะต้องยิ้มแก้มปริ จนอยากมาอีกหลายๆ ครั้ง
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม : ททท. สำนักงานเลย โทร. 042 812 812
บ่อเกลือ ตั้งอยู่ใน อ.บ่อเกลือ อยู่ห่างจากตัวเมืองน่าน ประมาณ 80 กิโลเมตร มีชื่อเสียงในด้านการทำเกลือบน ภูเขาที่ไม่มีที่ใดเหมือน การผลิตเกลือสินเธาว์ เพื่อบริโภคและจำหน่ายเป็นรายได้อีกทางหนึ่ง บ่อเกลือนี้มีมาแต่โบราณ และจะนำไปจำหน่ายยังกรุงสุโขทัย เชียงใหม่ เชียงตุงหลวงพระบาง รวมถึงสิบสองปันนา และจีนตอนใต้ เมื่อก่อนนี้จะมี บ่อเกลือ หลายบ่อ แต่เดี๋ยวนี้ได้แห้งไปหมด เหลืออยู่เพียงสองบ่อเท่านั้น ซึ่งเป็นบ่อเกลือสาธารณะ ชาวบ้านจะเรียกว่า บ่อเหนือและบ่อใต้
มาชมวิธีการทำเกลือ สัมผัสวิถีชีวิตคนท้องถิ่น ท่ามกลางเทือกเขาสูง มีทิวทัศน์ ทะเลหมอกสวยงามไม่แพ้ที่ไหนๆ ที่สำคัญอย่าลืมอุดหนุนเกลือสดๆ กลับบ้านกันด้วยนะรับรอง เค็มแบบต้นตำรับแท้จนถึงหูเลยล่ะ
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม : ททท. สำนักงานแพร่ (รับผิดชอบพื้นที่จังหวัดแพร่ น่าน อุตรดิตถ์) โทร. 054 521 127
ผาเก็บตะวัน อยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติทับลาน มีทางขึ้นอยู่ด้านอำเภอวังน้ำเขียว จังหวัดนครราชสีมา หากคุณมาเที่ยววังน้ำเขียว ก็อย่าลืมแวะมาเก็บภาพดวงตะวันลับขอบฟ้าที่นี่ด้วยนะ รับรองสวยงามไม่เหมือนใคร
ไฮไลท์สำคัญของผาเก็บตะวัน การดีดหนังสติ๊ก เป็นหนังสติ๊กขนาดใหญ่ ที่ให้เอาไว้ให้นักท่องเที่ยวได้เล่น แต่ไม่ใช่ดีดไปส่งเดชนะครับ เพราะว่ากระสุนที่ใช้ มันคือเมล็ดพันธุ์ (ขายลูกละ 10 บาท) ที่ยิงออกไปไกลแค่ไหนก็แล้วแต่กำลัง มันก็จะเจริญเติบโตต่อไปถือเป็นกุศโลบายชั้นเยี่ยม ที่คอยช่วยเหลือผืนป่าให้ยืนยาว
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม : ททท. สำนักงานนครราชสีมา โทร. 044 213 030
ถ้าจะไปทะเลหน้าหนาว ก็ไม่มีกฎหมายข้อไหนห้ามไว้ ที่สำคัญเป็นจังหวัดใกล้กรุงเทพฯ อย่างจังหวัดชลบุรี ขับรถไม่กี่ชั่วโมงก็ถึง และจุดเด่นเรื่องของหาดทรายสวย น้ำทะเลใส ที่นี่ต้องยกให้เกาะล้าน สถานที่ท่องเที่ยวที่ประกอบด้วยชายหาดน้อยใหญ่มากมาย
หาดตาแหวน แนวปะการังน้ำตื้นที่มีสีสันสวยงาม หาดสังวาลย์ เป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยวชาวยุโรปที่ชอบนอนอาบแดด หาดทองหลาง เป็นชายหาดขนาดเล็กที่เงียบสงบเหมาะกับนักท่องเที่ยวที่ต้องการพักผ่อนแบบส่วนตัว หาดแสม มีโขดหินและพื้นป่าที่ค่อนข้างสมบูรณ์มีความสวยงาม เงียบสงบ เส้นทางสัญจรที่สามารถเดินทางไปมาได้อย่างสะดวกจึงเป็นชายหาดอีกแห่งหนึ่งที่มีนักท่องเที่ยวเข้ามาพักผ่อนเป็นจำนวนมาก หาดเทียน สวยงามไม่แพ้หาดตาแหวนแต่มีขนาดเล็ก หาดนวล อยู่ทางตอนใต้ของเกาะล้าน เป็นชายหาดที่มีปะการังสมบูรณ์ เนื่องจากไม่ค่อยมีนักท่องเที่ยวนิยมมาเที่ยวมากนัก
นอกจากนี้ยังมี จุดชมวิวเขานม เป็นจุดชมวิวที่สวยงามที่สุดของเกาะล้าน และบริเวณนี้ยังเป็นสถานที่สำหรับนักปั่นจักรยานเสือภูเขาที่ชื่นชอบธรรมชาติ สามารถมองเห็นวิวของกังหันลมผลิตกระแสไฟฟ้าบนเกาะได้อีกด้วย
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ : ททท. สำนักงานพัทยา โทร. 038 427 667
ยอดเขาเทวดา เป็นยอดเขาที่สูงที่สุดใน จ.สุพรรณบุรี 1,123 เมตร จากระดับน้ำทะเล อยู่ในอุทยานแห่งชาติพุเตย มีพื้นที่เกือบ 2 แสนไร่ หรือประมาณ 317 ตารางกิโลเมตร ครอบคลุมพื้นที่เขตป่าสงวนแห่งชาติป่าองค์พระ ป่าเขาพุระกำ และป่าเขาห้วยพลู เป็นแหล่งต้นน้ำลำธารหลายสาย มีธรรมชาติที่สวยงามเหมาะที่จะเป็นแหล่งท่องเที่ยวพักผ่อนหย่อนใจและยังสามารถมองเห็นทะเลหมอกและไอหมอกที่ปกคลุมไปทั่วทั้งยอดเขา สำหรับการท่องเที่ยวยอดเขาเทวดานั้น สามารถเที่ยวชมได้ทุกฤดูกาลเลยครับ
ที่นี่ถือเป็นสวรรค์ของคนรักการผจญภัยอย่างแท้จริง มีครบทั้งป่าสน น้ำตก แสงอาทิตย์ยามเช้า ทะเลหมอก อากาศหนาวเย็น และวิถีชีวิตของชาวกะเหรี่ยง แถมอยู่ใกล้กรุงเทพฯ อีกด้วย ลองไปกันดูนะ แล้วจะรู้ว่าเทวดาเขาอยู่กันที่ไหน ดังที่ใครก้ไม่รู้กล่าวไว้ว่า “อยากเจอเทวดาให้ไปสวรรค์ แต่ถ้าไปสุพรรณ จะเจอยอดเขาเทวดา”
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม : อุทยานแห่งชาติพุเตย โทร. 035 446 237
9. เขาช้างเผือก จังหวัดกาญจนบุรี
เขาช้างเผือก เป็นชื่อยอดเขาที่สูงที่สุดของอุทยานแห่งชาติทองผาภูมิ มีความสูงประมาณ 1,249 เมตร จากระดับน้ำทะเลปานกลาง เป็นเส้นทางเดินป่าที่สวยงาม น่าตื่นตาตื่นใจ เส้นทางเดินไปสู่ยอดเขาช้างเผือกเป็นป่าโปร่งสลับกับทุ่งหญ้า มีจุดไฮไลท์ของการเดินทางอยู่ที่ “สันคมมีด” สันเขาที่สวยงามและน่าหวาดเสียวไปพร้อมกัน เมื่อขึ้นไปถึงยอดเขาจะสามารถมองเห็นวิวได้รอบทิศทาง 360 องศา โดยการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยยกให้ที่แห่งนี้เป็น 1 ใน 10 Dream Destinations ที่นักท่องท่องเที่ยวควรไปเยือนมากที่สุดอีกด้วย
ในการขึ้นไปเขาช้างเผือกนั้น ทางอุทยานฯ จะจำกัดจำนวนวันละไม่เกิน 60 คน และต้องจองล่วงหน้า 7 วัน พร้อมส่งชื่อ-สกุล เลขที่บัตรประชาชน และที่อยู่ให้ทางอุทยานฯ โดยจะใช้เวลาเดินเท้าประมาณ 6 ชั่วโมง เป็นระยะทาง 8 กิโลเมตร พร้อมกางเต้นท์ค้างคืนบนยอดเขา 1 คืน ซึ่งทางอุทยานฯ จะจัดเจ้าหน้าที่นำทาง และจ้างลูกหาบช่วยขนสัมภาระให้ ส่วนที่มาของชื่อเขานั้น ก็มาจากทะเลหมอกอันงดงามล้ำค่า ประหนึ่งได้เห็นช้างเผือกตัวเป็นๆ ถ้าอยากเห็นบ้าง อย่ารอช้า เตรียมเก็บกระเป๋าเลย
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม : อุทยานแห่งชาติทองผาภูมิ โทร. 081 382 0359
10. หาดส้มแป้น จังหวัดระนอง
หาดส้มแป้น เป็นชื่อตำบลในจังหวัดระนอง เป็นที่ตั้งของสวนสาธารณะรักษะวาริน ซึ่งเป็นบ่อน้ำแร่ที่เกิดจากธรรมชาติแห่งเดียวในประเทศไทยที่ไม่มีกำมะถันเจือปน ทำให้น้ำใสสะอาดบริสุทธิ์ มีประโยชน์ต่อร่างกายในการบำบัดรักษาสุขภาพ มีทั้งหมด 3 บ่อ คือ บ่อพ่อ บ่อแม่ และบ่อลูก มีอุณภูมิประมาณ 65 องศาเซลเซียส
แช่น้ำร้อนแล้ว อย่าลืมมาไหว้พระที่วัดหาดส้มแป้น ซึ่งวัดนี้ไม่มีส้มแป้น แล้วก็ไม่มีหาด แต่มีอ่างเก็บน้ำขนาดย่อม ที่มีสีเขียวมรกต มีปลาพลวงแหวกว่าย บริเวณวัดบรรยากาศร่มรื่น เย็นสบาย มีสายหมอกจางๆ ในยามเช้า เป็นสถานที่ท่องเที่ยวหน้าหนาวอีกแห่ง เหมาะสำหรับคนขี้หนาว คนเบื่อดอย ไม่ชอบเดินให้เหนื่อย มาแช่น้ำร้อนแก้เมื่อยกันดีกว่า
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม : ททท. สำนักงานชุมพร (รับผิดชอบพื้นที่จังหวัดชุมพร ระนอง) โทร. 077 501 831 – 2
ขอบคุณข้อมูลบางส่วน จาก อนุสาร อสท. ฉบับเดือนพฤศจิกายน 2557 , เรียบเรียงโดย : Travel MThai
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น